สัมมนา...หนึ่งปียิ่งลักษณ์กับอนาคตเศรษฐกิจไทยตอนที่ 1. รหัส แสงผ่อง

สัมมนา...หนึ่งปี ยิ่งลักษณ์กับอนาคตเศรษฐกิจไทย  ตอนที่ 1.รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง

ครบรอบ ๓๒ ปี ฐานเศรษฐกิจ

          การจัดกิจกรรมสัมมนาขบวนการเพื่อสื่อความรู้ทางตรงถึงผู้อ่าน ในหัวข้อ “๑ ปี รัฐบาลยิ่งลักษณ์ในมุมมองของเอกชน” เพื่อสะท้อนสถานการณ์เศรษฐกิจที่ผ่านมาภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลซึ่งมีปัจจัยหลายด้านที่ผสมผสานเช่น เศรษฐกิจโลกชะลอตัว วิกฤติยุโรป สหรัฐอเมริกายังไม่ฟื้น การว่างงานสูงกับเศรษฐกิจจึงเริ่มชะลอตัวมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการส่งออกของไทย ภายใต้ความเชื่อมั่นของรัฐบาลนี้ว่า GDP ที่7% และการส่งออกเป้าหมาย 15% ซึ่งต่างจากนักวิเคราะห์เศรษฐกิจและสถาบันทางการเงินหลายแห่งที่ดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจทั้งภาครัฐและภาคเอกชนได้ปรับตัวเลข GDP และการส่งออกอยู่ที่ 5.7% และ  7-8%
                       จากการมองต่างมุมนี้ท่านผู้เข้าร่วมสัมมนาในวันนี้จะได้รับความรู้และเห็นภาพชัดเจนได้จากการสะท้อนนโยบายของท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังที่รับผิดชอบเศรษฐกิจโดยตรง และมุมมองวิทยากรเอกชนที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญในภาคธุรกิจว่าเป็นอย่างไรต่อไป และเศรษฐกิจในอีก 5 เดือน ข้างหน้ามีแนวโน้มอย่างไร บัดนี้ได้เวลาอันสมควรแล้วผมขอเชิญท่านกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังขึ้นกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อโรดแม๊พสู่อนาคตประเทศไทย”

ท่าน กิตติรัตน์ ณ ระนอง

          กราบเรียนท่านรัฐมนตรีว่าการทรวงคมนาคม จารุพงษ์ เรืองสุวรรณ  ประธานบริหารหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ  ท่านบรรณาธิการฯ  ท่านวิทยากร ท่านผู้มีเกียรติที่เคารพทุกท่านครับ รู้สึกเป็นเกียรตินะครับที่ได้มาอยู่ที่นี้พร้อมกับทุกท่านในเช้าวันนี้ รูปแบบและไม่เคยได้ยินที่ไหนมาก่อนและเป็นโอกาสที่ชวนให้ท่านเห็นภาพ อย่างไรก็ตามอาจเป็นเรื่องยากเพราะว่าไม่ได้เป็น เรื่องที่ใหม่ซะจนเกินไปความจริงรัฐบาลนี้ก็อยู่มาครบ 1 ปี อย่างที่ได้เกริ่นไว้ใน อย่างไรก็ตามผมจะชวนชี้ให้ท่านเห็นอดีตของประเทศไทยด้วยเวลาสั้นๆ ซักนิดหนึ่ง ผมจะไม่ย้อนไปสี่ห้าสิบปี เหมือนกับที่หลายๆ โอกาสได้เคยพูดถึง ประเทศเป็นเกษตรกรรมมากๆ และก็เพื่อส่งเสริมการลงทุน พยายามสร้างงาน พยายามแก้ไขปัญหาความยากจนเหมือนกับในหลายโอกาสที่ผ่านมาแต่จะขออนุญาตชวนให้ท่านเห็นในช่วงเพียงสักทศวรรษครึ่ง ครับหลังจากวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 เชื่อว่าท่านยังจำความรู้สึกเหตุการณ์นั้นได้
                        ประเทศเข้าสู่ปัญหาเพราะว่าการขาดดุลการค้า การขาดดุลบริการ พอรวมทั้งสองดุลเรียกว่า ดุลบัญชีเงินสะพัดก็ขาดดุลแล้วก็ขาดดุลเรื้อรังจนกระทั่งนำไปสู่ที่เราจะต้องลอยตัวค่าเงินบาท จริงอยู่ครับอีกหลายเรื่องที่เป็นองค์ประกอบเสริมที่ทำให้เราต้องมีปัญหา ไม่เพียงแต่เรื่องการขาดดุล เรายังพูดถึง การขาดธรรมาภิบาลในภาคธุรกิจ เราพูดถึงการขาดธรรมาภิบาลในภาครัฐ 15 ปีผ่านไปหลายสิ่งเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่เราใช้อัตราแลกเปลี่ยนที่ไม่แข็งค่าเหมือนกับที่เราปักหลักไว้ที่ 25 บาทต่อ 1 เหรียญ ทำให้เกิดภาวะขาดดุลการค้า กลายเป็นเกินดุล แต่ที่น่าสนใจก็คือหลายสิ่งหลายส่วนนั้นดูเหมือนจะยังคงวนเวียนอยู่ในภาวะแบบเดิมๆ และอาจจะเลวร้ายลงซะด้วยซ้ำไป เช่นประเด็นที่เราพูดกันเรื่อง ทุจริต คอรัปชั่นในวงทั้งราชการและวงเอกชน ผมเชื่อว่าท่านเห็นการทุจริตในวงเอกชนเกิดขึ้นขนาดใหญ่ๆ ด้วย

           ดังนั้นสิ่งเหล่านี้ก็ยังเป็นสิ่งที่ต้องต่อสู้กันต่อไปผมเพียงแต่อยากจะชวนให้ท่านเห็นว่าในมุมของเศรษฐกิจในมุมทางสังคม มุมการเมืองดูเหมือนจะมีสิ่งที่ต้องทำเป็นนับพันนับหมื่นรายการที่จะต้องตัดสินใจบริหารจัดการหลายส่วนนั้นปัญหาถูกวางไว้ราวกับว่าไม่ต้องแก้ไขก็ได้ แล้วก็จะมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเอง ผมยกตัวอย่างเช่นเมื่อเกิดวิกฤติเศรษฐกิจเมื่อปี 40 นั้นเรามีความจำเป็นจะต้องเข้าไปดูและผู้ฝากเงินก็เกิดหนี้ก้อนโต ที่เรียกว่าหนี้กองทุนฟื้นฟู ก้อนโตขนาดถึง 1.1 ล้านล้านบาทก็วางไว้เฉยเป็นเวลา13-14 ปี แล้วก็รัฐบาลไหนๆ ก็มาช่วยตั้งงบประมาณจ่ายดอกเบี้ยอย่างเดียวทุกปีทุกปีๆ
                         แม้กระทั่งปีงบประมาณนี้ครับก็เคยตั้งเอาไว้ 68,000 ล้าน ท่านก็แก้แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะเค้าไม้ได้แก้กันไว้ว่ายอดดอกเบี้ยอย่างเดียวมันเกินเจ็ดแสนห้าหมื่นล้านไปแล้วและก็ยังไม่มีคำตอบเลยว่าถ้าจะจ่ายดอกเบี้ยทุกปีทุกปีแล้วหนี้ก้อนโตก้อนนี้จะถูกแก้ไขอย่างไร ก็ถือว่ารัฐบาลก็มีความชัดเจนที่จะต้องตัดสินใจก็แก้ไขกันไปอย่างที่ท่านเห็นและก็แน่นอนว่าต้องมีการวิพากษ์วิจารณ์ทำอะไรโดยที่จะมี ข้อดีและไม่ดีข้อเสียตามมาด้วยผมเชื่อว่า...... ข้อดีมากกว่าข้อเสียเราก็ควรจะเดินหน้าแก้ไขกันต่อไปเช่นการที่จะต้องรักษาเงินฝากในอัตตราที่เราฝากกันมาแล้วก็มาตั้งเป็นกองทุนคุ้มครองเงินฝาก ฝากทั้งระบบมี เงินจำนวน 6 ล้านล้าน 7 ล้านล้าน เราจะต้องกันไว้ซักแค่ไหนจะทำคนอบอุ่นใจว่าไม่สูญเสียเงินฝาก

            ถ้าตั้งน้อยไม่อบอุ่นใจถ้าตั้งมากระบบรับไหวหรือที่จะเอาเงินจำนวนหนึ่งตั้งไว้ดูเฉยๆแล้วก็บอกว่าท่านอุ่นใจแล้ว แท้ที่จริงการทำงานก็เหมือน  กับรั้วบ้านไม่มีรั้วก็ไม่อุ่นใจ มีรั้วจะสูงแค่ไหนถึงจะอุ่นใจแล้วมีรั้วแล้วกันคนร้ายปีนข้ามไปได้จริงๆรึป่าวนั้นสิ่งที่จะต้องแก้ไขคือต้องมาดูแลกันดีมั้ยครับว่าการบริหารจัดการสถาบันการเงินต่างๆจะเป็นไปอย่างดีมีประสิทธิภาพมีความน่าเชื่อถือเงินกองทุนคุ้มครองคนฝากเอาไว้ซักระดับหนึ่งพอประมาณให้คนสบายใจเพียงพออย่างนี้เป็นต้น ดังนั้นผมจึงเรียนว่าก็เป็นความง่ายๆที่จะเอาทุกๆ เรื่องมาอธิบายความไปพร้อมๆ กันแต่ว่าสิ่งที่รัฐบาลนี้ดำเนินการอยากให้ท่านเห็นว่ามีความร้อยเรียงเกี่ยวข้องกันและก็เป็นเรื่องที่สนับสนุนภารกิจซึ่งกันและกันจึงเรียนว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้ท่านเห็นว่าประเทศของเรากำลังเดินไปในทางไหนด้วยการอธิบายมิติเดียวในโอกาสเดียวโดยใช้ช่วงเวลา 25 นาทีให้ดีที่สุดให้เห็นว่านี่คือสิ่งที่เราเรียกว่าโรดแม๊พอนาคตประเทศไทย

          14-15 ปีหลังจากแก้ไขปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจเราพยายามจะทำให้เศรษฐกิจของเราเติบโต ด้วยการส่งออกที่เติบโตมาก ผมย้ำอีกที่ว่าเราต้องการทำให้เศรษฐกิจของเราเติบโตด้วยการที่ต้องให้การส่งออกเติบโตมากแล้วจะทำอย่างไหร่ให้หยุดยืนในแต่ละปีเติบโตในอัตราที่สูงมากบางปีทะลุแตะ30% ด้วยซ้ำไปเพียงเพื่อให้ GDP โตขึ้น 4-5% ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นก็เป็นเพราะว่าเราสบายใจมีความสุขกับการที่ค่าเงินอ่อนเพื่อให้ผู้ส่งออกสามารถขยายกิจการได้ดีแต่ว่าบรรยากาศแบบนั้นมันเปลี่ยนแปลงไปช้าๆ โดยที่เราเองก็ไม่รู้สึกกลัวนอกจากค่าเงินบาทที่เคยสูง 50 บาท 40 กว่าบาทลงมา 30 กลางๆ ลงไปถึง 30 ถ้วนๆ ในช่วงเวลาที่ผมเคยเรียนว่าผมอยากเห็นค่าเงินบาทอ่อนซักหน่อยตอนนั้นทำท่าจะทะลุ30 บาทลงไปถึง 29 ให้ได้

            ก็ต้องขออภัยเพื่อนร่วมงานที่อยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยแม้ว่าผมจะทราบดีว่ากระทรวงการคลังไม่ควรจะไปยุ่งเกี่ยวกับธนาคารแห่งประเทศไทยมากแต่หน้าที่ของรัฐบาลรับผิดชอบทั้งประเทศรับผิดชอบต่อรัฐสภา......ความเป็นอิสระในระดับสูงแต่ผมก็มีหน้าที่เตือนสติดังนั้นการที่ผมพูดเรื่องของค่าเงินบาทเป็นแบบที่ใครต่อใครการส่งออกจะชะลอตัวและมีปัญหา.....หน้าที่ผมก็คือส่งสัญญาณนิ่มๆ ก็ต้องรับสภาพกันดังนั้นผมก็ตั้งคำถามว่าเรามาหยุดดูประเทศไทยในวินาทีก่อนหน้านี้ซักนิดหนึ่งก่อนเมื่อรัฐบาลเข้ามาจนกระทั่งถึงตอนที่รัฐบาลอยู่ขณะนี้ประเทศไทยเราเป็นประเทศที่เติบโตดีเรื่องการส่งออกสูงเป็นประเทศที่การอุปโภคบริโภคภายในประเทศแทบไม่เติบโตเป็นประเทศที่มีการใช้จ่ายเงินของภาครัฐกับประสิทธิภาพกลับถูกกล่าวหาทั้งภายในประเทศและนานาชาติว่ามีความไม่โปร่งใส่รั่วไหลทุจริตคอรัปชั่นขึ้น
                         แต่ในประเทศที่นักธุรกิจเอกชนพยายามจะขยายกิจการได้ก็ต้องไปลงทุนธุรกิจต่างประเทศรัฐบาลที่อยู่ในที่นี้คงเป็นพยานได้อย่างแท้จริงหลายๆ ปีที่ผ่านมาบริษัทซึ่งขยายตัวเติบโตได้ล้วนต้องไปลงทุนประเทศรอบข้างประเทศเพื่อนบ้านประเทศไกลๆ แต่ไม่ค่อยมีใครมาขยายกำลังการผลิตในประเทศเพื่อตอบสนองความต้องการภายในประเทศนี่ซักเท่าไหร่ที่เข้ามาก็เพื่อการลงทุนประเทศอื่นเป็นประเทศที่มีความพร้อมที่จะเป็นผู้บริโภคแต่น่าสนใจการผลิตสินค้าดีๆมีคุณภาพมากมายแต่พอส่งออกไปข้างนอกคนไทยจนเกินไปที่จะมีกำลังซื้อสินค้าเหล่านั้นดังนั้นเป็นประเทศที่แทบจะไม่มีปัญหาการว่างงานผมใช่คำว่าแทบไม่มีปัญหาอัตราการว่างงานขณะนี้อยู่ที่ร้อยละ 0.7 เป็นที่ยอมรับทั้งโลก 

           ประเทศในอัตราการว่างงานน้อยกว่า ร้อยละ1 เค้าก็พูดกันว่าแบบนี้ไม่เรียกการว่างงานเรียกว่าเป็นช่วงรองานหรือเปลี่ยนผ่านงาน ซึ่งอาจจะมีคนจำนวนหนึ่งไม่สามารถเข้าสู่กระบวนงานได้.........แต่ว่าเราเป็น....แทบไม่มีปัญหาการว่างงานเราจ้างงานเกินกำลังซะอีกเพราะว่าเราต้องมีแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านจำนวนนับหลายล้านคนมาช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตได้หลายกลุ่มธุรกิจ.หากไม่มีแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านคำถามท่านเหล่านั้นก็อยู่กับเรานานพอสมควรจนต้องเข้าเรียนระบบการศึกษาเราสร้างไว้รองรับเค้าหรือเปล่าเมื่อเร็วๆนี้ท่านนายกรัฐมนตรีก็ได้จัดการประชุมในส่วนของสาธารณสุขสอบถามเรื่องของแรงงานเหล่านี้ว่าเวลาเค้าเจ็บไข้ได้ป่วยเค้าได้รับการรักษาพยาบาลกันอย่างไร
                         ก็พบว่าคำตอบกระท่อนกระแท่นหลายส่วนก็ตอบว่าก็ให้รักษาพยาบาลฟรีเช่นเดียวกับที่เค้าเป็นคนไทยเมื่อตอบแล้วก็มีข้อดีนะครับ เจ็บไข้ได้ป่วยแล้วจะไม่รักษาเค้าหรือรักษาเค้าอยู่แต่ถ้าเค้าบอกว่าไม่กล้าให้เค้ารักษาฟรี  เพราะว่าเค้าไม่ได้เป็นผู้ที่ถือสัญชาติไทยสิ่งเหล่านี้เป็นปัญหาที่ความที่ชัดเจน....เพราะฉะนั้นรัฐบาลนี้ต้องหาคำตอบให้ได้เพราะถ้าหากว่าเรายังต้องการท่านเหล่านี้ช่วยให้เศรษฐกิจของเราเคลื่อนไปข้างหน้าเราต้องดูแลเค้าให้โอกาสเค้าแม้ว่าเค้าไม่โชคดีพอที่จะถือสัญชาติไทยเราก็ต้องปฏิบัติกับเค้าอย่างถูกต้องสิ่งที่เป็นคำถามต่อ โรดแม๊พ อนาคต เราจะเติบโตข้างหน้าไปอย่างไร 

            เรายังคงต้องเติบโตโดยการใช้แรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หรือเรายังคงมีความสุขดี ที่จะหวังให้เศรษฐกิจโต ที่จะต้องส่งออกในอัตรา การขยายตัวสองหลัก จากที่ผมตั้งเป้าร้อยละ 15อย่างนั้นหรือเราไม่มีคำตอบอะไรอื่นที่จะชะลอตัวในอนาคตสิ่งเหล่านี้เป็นคำถามที่ผมอยากถามซึ่งแน่นอนผมเดาเอาก็คุณเป็นตัว..เศรษฐกิจคุณก็ตอบมาซิผมจึงเรียนท่านเลยนะครับ
                         การที่สภาพัฒน์ฯประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจมาเมื่อ 2 วันที่แล้วใครจะเห็นอย่างไรก็เป็นสิทธิที่ท่านจะเห็นหลายท่านทราบดีว่าผมชื่นชอบกีฬาฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจผมเข้าใจดีว่าเวลาที่ตัวเลขเศรษฐกิจมันต่ำลงมาแล้วเนี่ยเป้าสายตาจะพุ่งไปที่การขยายตัวการส่งออกเป็นเป้าแรก เพราะในอดีตทีมฟุตบอลชาติไทยทีมนี้ จะทำประตูคู่ต่อสู้ได้ก็ต้องใช้การส่งออกเป็นหัวหอกในการทำประตู และตอนนี้ขอเสนอว่าขอแสดงความยินดีต่อประเทศไทยเพราะเราสามารจะทำประตูได้โดยเรามีหัวหอกเป็น...ที่จะมาเป็นผู้ร่วมทำประตู.ด้วยกันแล้วพูดคำนี้ก็อาจจะไม่ได้สนใจว่าถ้าเดิมตั้งเป้าร้อยละ 15 แล้วตอนนี้มันไม่ถึงแน่แล้วใช่ไหม  ก็เรียนว่าไม่ถึงแล้วก็ไม่รู้สึกแปลกใจเลยว่า ก็อาจมีคำถามว่ารู้ว่าไม่ถึงแล้วพูดทำไม 

              ผมก็เรียนว่าปีหน้ารัฐมนตรีคลังมีหน้าที่ อนุญาตให้พูดจริงได้บางเรื่องคำภาษาอังกฤษเค้าใช้คำว่า “white lie” คือ “การพูดไม่จริงสีขาว” ถ้าผมพูดตั้งแต่ต้นปีว่าเราคงจะขยายเศรษฐกิจตัวการส่งออกไม่ได้ ความไม่มั่นใจจะอยู่ในภาวะอะไร ที่ในเวลานั้นใช่เวลาที่เหมาะสมที่จะพูดอย่างนั้นไหม  และก็ในแง่ของความตั้งใจตั้งเป้าผมก็พูดชัดเจนเป้าในการทำงานต่อให้ยากสักแค่ไหนผมก็จะทำงานถ้า มีโอกาสให้การส่งออกได้ขยายตัว ร้อยละ15 เมื่อตัวเลขทางเศรษฐกิจออกมา การพยากรณ์เศรษฐกิจของสภาพัฒน์ฯที่ GDP ก็อยู่บนการคาดการณ์ ว่าเศรษฐกิจไทยจะโตเพียงร้อยละ 7.3 แล้วถ้าเกิดในอดีตเนี่ย ถ้าโตการส่งออกได้ เศรษฐกิจจะโต ......คำตอบคือไม่แล้ววันนี้ทำไมถึงไม่มีความเชื่อมั่นว่าจะโตได้อย่างนั้น
                           เพราะสิ่งที่เป็นข้อมูลประจักษ์ชัดนะครับคือการอุปโภคบริโภค ในประเทศที่มีคุณภาพได้เกิดขึ้นแล้วการใช้จ่ายภาครัฐ...แม้กระทั่งรัฐบาลนี้เข้ามาในช่วงที่เป็นรอยต่อเรื่องงบประมาณประจำปีมีความล่าช้าอย่างยิ่งท่านคงจำได้ว่างบประมาณประจำปีผ่านสภาเรา เห็นอยู่กว่าจะใช้จ่ายงบได้จริงๆ ก็พฤศจิกา ดังนั้นเวลาตั้งแต่มีนามาจนถึงขนาดนี้นะครับเท่ากับระยะเวลาเพียง ห้าหกเดือนเท่านั้นเองที่เราได้มีโอกาสบริหารการใช้จ่ายของภาครัฐมากขึ้นประสิทธิภาพการลงทุนภาคเอกชนตัวเลขสภาพัฒน์ฯมีการยืนยันว่ามีการขยายตัวในอัตราที่ดีเกิน 100 ดังนั้นที่ผมอยากจะชี้ให้เห็นว่าแม้กระทั่งการขยายตัว อุปโภคบริโภคอ้างว่าเพิ่มขึ้นเพราะว่ามันเป็นการรายงานภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บได้ท่านจะสังเกตให้ดี 

             นโยบายเรื่องค่าแรงค่าจ้างขั้นต่ำนโยบายในเรื่องการดูแลราคาสินค้าเกษตรบางรายการนั้นกว่าจะเริ่มทำงานได้จริงๆก็ปาเข้าไปช่วงปลายปีที่แล้วและการเพิ่มค่าแรงค่าจ้างขั้นต่ำ เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการจริงๆก็คือวันที่1 เมษายนเพราะฉะนั้นนับรวมความแล้ว วันที่1เมษายนขณะนี้ยังไมถึงข้ามเดือนซะด้วยซ้ำไปแต่สัญญาณทั้งหมดได้เกิดขึ้นอย่างชัดเจนว่าทิศทางที่ปรับสมดุลประเทศไทยเราเน้นการส่งออกดีอยู่เพียงแต่ว่าจะชะลอตัวไปบ้างเรามีศูนย์หน้าที่จะทำประตูเพิ่มขึ้นอีก 3 ราย ยกตัวอย่างเช่นการใช้จ่ายภาครัฐเนี่ยท่านจะสังเกตเห็นว่ากระบวนการในการเข้าสู่การลงทุนก็จำทำแบบค่อยเป็นค่อยไปอย่างที่ดำเนินกันมาก็คงทำได้แต่สิ่งที่รัฐบาลนี้ได้ดำเนินการคือ การไปสำรวจว่ากระบวนการจัดซื้อจัดจ้างที่ต้องโปร่งใสและมีประสิทธิภาพไม่จำเป็นต้องล่าช้าเพราะฉะนั้นการประมูลแบบอีออฟชั่นก็ดีการประมูลด้วยวิธีปรกติก็ดีที่ผ่านมาใช้เวลายืดยาดเยิ่นเย้อ  

             โดยขาดความจำเป็นไปหลายรายการเพราะฉะนั้นจะขอย้ำอีกครั้ง การที่เราสามารถทำงานได้เร็วขึ้นทำเร็วๆแล้วเกิดความไม่รอบคอบเกิดโอกาสในการรั่วไหลนอกจากนั้นสิ่งที่เราสามารถบริหารจัดการที่เป็นจริงในทันทีที่งบประมาณผ่านวาระสองและสามในสภาผู้แทนราษฎรกระทรวงการคลังมีหน้าที่ดูแลเรื่องนี้ ผ่านกรมบัญชีกลางทำหนังสือถึงส่วนราชการทั้งหมดปรากฏว่าขณะนี้ที่ผ่านสภาผู้แทนราษฎรแล้วแม้ยังไม่ผ่านวุฒิสภา ยังไม่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาขอให้ส่วนราชการทุกส่วนราชการได้เริ่มกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างได้แล้วเพียงแต่ท่านจะลงนามในการทำสัญญาได้ก็ต่อเมื่องบประมาณผ่านวุฒิสภาไปเรียบร้อยและประกาศในราชกิจจานุเบกษาแทนที่จะไปรอในวันที่ 1ตุลาแล้วค่อยเข้าสู่กระบวนกว่าจะหาผู้ที่รับจ้างได้ผู้ที่จัดหาให้ได้กว่าจะเริ่มลงทุนกันอาจจะกลายเป็นเดือนธันวากลายเป็นเดือนมกรากุมภารัฐบาลก็สามารถทำให้มีประสิทธิภาพได้ซึ่งถ้าจะแปลความก็จะแปลว่าเพื่อให้การขยายตัวดี....... ปี 56 ก็หวังว่าเรื่องงบประมาณผ่านสภาผู้แทนราษฎรส่วนราชการก็จะทำเช่นนี้คือทำให้ปีงบประมาณเป็นปีงบประมาณจริงๆ การใช้จ่ายการลงนามในสัญญาจะสามารถทำได้ตั้งแต่ช่วงต้นปี

            ฉะนั้นจึงไม่ใช่เป็นการพยายามดึงมา.....แต่เป็นการปรับประสิทธิภาพซึ่งเคยเป็นแบบค่อยๆเป็นค่อยๆไปค่อยๆสบายๆแล้วก็จะใช้จ่ายยังไง  หลายรายการปีหนึ่งมีครั้งเดียวนะครับท่านคงเคยได้ยินที่บอกว่าตั้งเป้าการใช้จ่ายงบทั่วไปไว้ที่ร้อยละ93ต่อปีและก็ตั้งเป้าการใช้จ่ายลงทุนอยู่ที่ร้อยละ72ต่อปีเมื่อสิ้นปีงบประมาณประเทศไทยทำแบบนั้นมาโดยตลอดแต่ไม่เคยมีใครสนใจเลยว่าเมื่อถึงร้อยละ93จริงๆ หรือถึงร้อยละ72ของงบลงทุนจริงแล้วเนี่ยส่วนที่ยังขาดอยู่อีก28 ขาดอยู่ร้อยละ 28 ของงบลงทุนมันช้าไปข้ามปีหน้าก็ไม่ว่าแต่ตกลงมันช้าไปกี่สัปดาห์ กี่เดือน แล้วก็เมื่อผ่านไปแล้วสามเดือน28%ที่มันทำไม่ทันในปีงบประมาณนี้ถูกบริหารจัดการดีอย่างไร
                         ดังนั้นในส่วนที่รัฐบาลจะบริหารจัดการเศรษฐกิจของประเทศให้มีประสิทธิภาพแล้วก็ไม่จำเป็นจะต้องพึ่งผู้ทำประตูคือผู้ส่งออกเนี่ยก็เป็นทิศทางที่เป็นโรดแม๊พประเทศไทยแต่ก็ขออนุญาตเรียนว่าตอนนี้ผมเชื่อว่าคงอยากรอฟังท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมฯที่กำลังเล่าให้ฟังถึงการลงทุนในระบบโครงข่ายการคมนาคมของประเทศซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งผมอยากเรียนท่านอย่างนี้โชคดีที่ประเทศไทยมีผู้นำผู้บริหารที่เข็มแข้งในแต่ละช่วงเวลาที่ ท่านพลเอกเปรม  ติณสูลานนท์เป็นนายกรัฐมนตรีท่านนั่งประชุมหัวโต๊ะเป็นประธานในที่ประชุมเร่งรัดการลงทุนในโครงการอีสเทิรน์ซีบอร์ด  จนกระทั่งมาถึงท่าเรือแหลมฉบังมีเขตนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออกเกิดขึ้นลองจิตนาการนะครับถ้าวันนั้นท่านไม่ทำงานอย่างหนักไม่ผลักดันให้เกิดการลงทุนในโครงการปานนี้เราคงจะอยู่กับท่าเรือคลองเตย 

            ในช่วงไม่ถึง 10 ปีที่ผ่านมาเราก็มีท่านนายกรัฐมนตรีคือ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณฯเป็นประธานการประชุมผลัดดันให้มีสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิหากวันนั้นการผลักดันไม่เกิดขึ้นแล้วก็ติดค้างอยู่เหมือนกับช่วงที่ติดค้างมาปานนี้เราก็คงจะมีแต่สนามบินดอนเมืองแม้ขณะนี้เรามีสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว...ของสนามบินสุวรรณภูมิเกิดขึ้นดีนะครับที่ท่านรัฐมนตรีจารุพงษ์ท่านเล็งเห็นปัญหานี้ตั้งแต่เข้ามารับหน้าที่และผลักดันให้สนามบินดอนเมืองเริ่มเปิดใช้บริการ ...คาดว่าสายการบินไทยแอร์เอเชียเป็นสายการบินที่จะใช้บริการที่สนามบินแห่งนี้ดังนั้นการติดขัดของสนามบินก็ได้รับการตรวจรับเป็นสิ่งที่ผมหวังว่ารันเวย์ที่ 3 รันเวย์ที่ 4 ของสนามบินสุวรรณภูมิมีแผนอย่างไรแล้วนอกจากนั้นอะไรอื่นที่เป็นเรื่องที่เราจะต้องลงทุนกันอีก 

            เมื่อเช้าได้ทราบข่าวรถไฟตกรางอีกแล้วซึ่งก็แปลกใจที่หนังสือพิมพ์สนใจลงข่าวอยู่เพราะที่จริงที่ทราบรถไฟตกรางทุกอาทิตย์แล้วยังสนใจกันอยู่ขณะนี้รถไฟซึ่งในหลายประเทศใช้เป็นกลไกสำคัญในการขนส่งสินค้าและบริการประเทศไทยมีความสำคัญ ร้อยละ2ของการขนส่งสินค้าของประเทศที่อยากเรียนก็คือว่าขณะนี้เรามีคอนเทนเนอร์ที่ใช่ส่งสินค้าเข้าออกมากกว่า...............ข้างหน้าเราจะทำอย่างไรถ้าเราอยากจะเติบโตในสัดส่วนของการค้าขายหรือส่งออกปีละเกินร้อยละ10 แสดงว่าเราจะต้องเตรียมมีคอนเทนเนอร์จากหกล้านเป็นหกล้านหกแสนเป็นเจ็ดล้านสองแสนเป็นแปดล้านขึ้นไปเรื่อยๆอย่างนี้หรือคำตอบก็คืออาจจะใช่ถ้าใช่ท่านต้องลงทุนไหม  

             นอกจากนั้นสิ่งที่เราต้องทำคือเราจะเน้นแต่เรื่องปริมาณโดยที่เราไม่เน้นเรื่องของคุณภาพเราไม่เน้นเรื่องราคาหรือมูลค่าเพิ่มเป็นไปได้ไหม  ครับว่าเรายังคงส่งออกในระดับหกล้านคอนเทนเนอร์หรือเติบโตขึ้นไปช้าในเชิงของปริมาณมูลค่าของสินค้าที่อยู่ในคอนเทนเนอร์นั้น  มันขยับสูงขึ้นเป็นไปได้ไหมครับ  ว่ากำไรของสินค้าที่อยู่ในคอนเทนเนอร์เหล่านั้น  มีจำนวนที่เพิ่มขึ้นปีนี้ท่านประธานสภาธุรกิจท่องเที่ยวอาจจะมองเห็นนักท่องเที่ยวถึง21ล้านคนถ้าเราอยากจะให้ธุรกิจท่องเที่ยวเติบโตเราต้องการรับนักท่องเที่ยวปีละ 2ล้านคน แล้ววัดพระแก้วที่จะรอรับนักท่องเที่ยวเตรียมพร้อมที่จะรับอยู่ไหม  วันนี้ถ้าไปชมจะเห็นว่าคิวยาวเหยียดที่เดียวในส่วนของการที่รองรับนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจะมีความพร้อมอยู่...ที่น่าสนใจคือนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาขอให้นักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นความประพฤติดีความพร้อมที่จะเป็นนักท่องเที่ยวที่ดีหรือแทนที่จะจำนวนเพิ่มจนกระทั่งสนามบินรับมากรับยากท่านเพิ่มเวลาการพักอยู่ยาวเพิ่มขึ้นสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่คนในองค์กรที่เกี่ยวข้อง 

            รัฐบาลก็ตั้งเป็นคำถามว่าทำอย่างไรจึงจะสามารถได้รับ......เศรษฐกิจเพิ่มขึ้นทั้งในปริมาณที่เหมาะสมและคุณภาพที่ดีขึ้นด้วยฉะนั้นในส่วนที่เป็นกำลังซื้อผมเชื่อว่าท่านจะจินตนาการเดาออกจากค่าแรงค่าจ้างขั้นต่ำ คนที่รับค่าจ้าง215 บ. เป็น300 บ.ก็จะไปอุปโภคบริโภคและ เรียนว่าต้องขออภัยนักธุรกิจในที่นี้อาจเป็นต้นทุนเพิ่มขึ้นรัฐบาลตระหนักดีนะครับแต่ก็ต้องบอกกับลูกจ้างว่าเธอต้องทำงานให้คุ้มค่าถ้าทำไม่คุ้มค่าฉันต้องไล่เธอออกนะและถ้าฉันต้องไล่เธอออกฉันก็ไม่มีความสุขเธอก็ไม่มีความสุข ประเทศที่ยึดแบบนี้ได้มีไม่กี่ประเทศก็เป็นประเทศที่อัตราการว่างานไม่สูง พอคนออกไปกลายเป็นคนว่างงาน ....ขออย่างเดียวให้ทักษะเค้าสอดคล้องกับผู้ว่าจ้างรายใหม่ การทำงานของตัวเค้าถูกเปลี่ยนแปลงไป การภาษีรายได้นิติบุคคล บ้านเราตอนที่เป็นร้อยละ30 ของในอาเซียน อยู่อย่างนั้นมาเป็นเวลาหลาหลายทศวรรษ รัฐบาลตัดสินใจเดินหน้าตัดภาษีลงเหลือร้อยละ23บัดนี้เรามีความมั่นใจภาษีที่เราในส่วนของอัตราภาษีที่สูง 

             แต่ถ้าหากว่าภาษีไม่อยากเสียภาษีอีกรัฐบาลจำเป็นต้องดำเนินการอย่างจริงจัง ฟังคำอภิปรายในสภาว่ารัฐบาลนี้ใจร้ายไปขูดรีดภาษี ทีมงานของท่านไปบังคับให้ใครที่ไม่ต้องเสียภาษีมาเสียภาษี ถ้าหากรัฐบาลมีหน้าที่ตองทำการแต่ท่านเหล่านั้นต้องเสียภาษีช่วยกันเสียภาษีแล้วเรามาช่วยกันดุอัตราเฉลี่ยของภาษีที่ถูกต้อง ให้ต่ำลงมาประเทศจะได้สามารถพร้อมแข่งขันกับอนาคตได้เพราะฉะนั้นในส่วนโรดแม๊พ คำสั้นๆนิดเดียวครับคือความสมดุลเราเคยเติบโตเพื่อที่จะมาตอบสนองต่อความต้องการในประเทศให้ดีขึ้น.......................................... ผมคงย้ำไม่ได้เกิดจาการกระตุ้น การกระตุ้นหมายถึงการชวนให้บริโภคซักรอบหนึ่งแล้วก็จบไปไม่ได้มีเจตนาจะไปอ้างอิงถึงโครงการอะไรนะแต่ว่าในบางเวลาเนี่ยเราอยากจะหากำลังซื้อดีขึ้นเราเอาเงินมอบให้เค้าไปและดูซิว่าเค้าจะซื้อไหม  แต่ส่วนที่รัฐบาลนี้กำลังทำเราก็ได้ชวนขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันสองวันเราชวนขึ้นตลอด  

              ดังนั้นสิ่งที่ได้ขึ้นแล้วก็จะยืนอยู่อย่างนั้น  ยกเว้นท่านมีความสุขยิ่งขึ้นยิ่งดียิ่งขึ้นยิ่งคุ้มก็ขึ้นกันต่อๆไปกำลังซื้อต่างๆ มันจะสามารถหนุนเนื่องไปได้ในส่วนที่เป็นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานผมได้ทำงานใกล้ชิดกับท่านรัฐมนตรีจารุพงษ์ฯ เราเกิดความมั่นใจว่าถ้าเห็นภาพเนี่ยประเทศพร้อมที่จะเดินไปข้างหน้าผมยืนยันกับท่านว่าหนี้สาธารณของประเทศต่ำเหลือเกินแล้วก็โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริหารจัดการหนี้สาธารณะก้อนโตถึง1.1ล้านล้านไปแล้วไม่เป็นภาระต่องบประมาณแผ่นดินแล้ว
                          เพราะฉะนั้นท่านควรจะพร้อมลงทุนได้คำถามที่ท่านเคยถามผมตอนรับหน้าที่ใหม่ๆ มีโครงการเยอะเหลือเกินที่มีความจำเป็นกระทรวงการคลังมีเงินไหม  ผมเลยตอบท่านว่าหนี้สาธารณะอยู่ที่ 4.6ล้านล้านGDPอยู่ที่12ล้านล้าน อีก4.6ล้านล้านนั้น หัก1.1ล้านล้านออกไปได้เลยเพราะไม่เป็นภาระต่อ...หนี้สาธารณะที่เป็นต่องบประมาณแผ่นดินเหลือเพียง 3.5ล้านล้านการที่จะดำเนินการทำอะไรเนี่ย  สามารถทำได้แล้วก็จะทำให้โปร่งใสการออกเป็นพระราชบัญญัติต่างๆ จะทำให้เกิดการวิเคราะห์วิจารณ์กันในสภาได้อย่างเต็มที่เรียกว่าโครงการนั้นโครงการนี้  จะลงทุนหรือไม่อย่างไร  

             คำถามที่มีคนพยายามถามเหมือนกันว่าตกลงรัฐบาลจะเน้นอะไร ตอบว่าอยากจะเน้นการกระจายตัวของการทำงานความหมายก็คือว่าภาครัฐลงทุนให้มีประสิทธิภาพ ลงทุนมากไม่ว่าขออย่าลงทุนในโครงการที่ไม่ถูกต้องขออย่าลงทุนในโครงการที่จะเป้าหมายส่อไปในทางทุจริตประพฤติมิชอบ ภาคเอกชนมีความมั่นใจเสียทีเห็นใจใน15 ปีที่ผ่านมาหลังจากชอกช้ำจากการบริหารเศรษฐกิจต่างๆ ที่คลาดเคลื่อนผิดพลาดไปชอกช้ำจากการเมืองที่ขาดเสถียรภาพและก็มองไม่เห็นกำลังซื้อที่มีความเข้มแข็งการที่ท่านจะลงทุนอะไร
                          ก็ต้องเป็นเรื่องการส่งออกเท่านั้นแต่ในขณะนี้ท่านมองตลาดส่งออกไม่ค่อยสดใสมากนักก็ขออนุญาตเลยครับอยากเห็นภาคเอกชนมีความมั่นใจสู่ความมั่นใจอยากเห็นคนที่เกี่ยวข้องกับปัญหาระดับอัตราดอกเบี้ยเข้าอกเข้าใจข้างนายทุนด้วยว่าอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมนั้นจะนำไปสู่การตัดสินใจลงทุน......อยากเห็นภาพที่เป็นเรื่องของการส่งออกว่าถ้าหากยุโรปชะลอตัวประเทศที่ค้าขายกับยุโรปมากๆ ชะลอตัวแต่ประเทศที่เราสามารถจะขยายการค้าการขายระหว่างกันได้ยังมีอยู่อีกมากเราจะทำงานกันอย่างไรโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศในกลุ่มอาเซียนที่พรมแดนติดกันและที่มีทะเลเป็นตัวเชื่อมเราสามารถที่จะทำงาน.....ได้อย่างไรการอุปโภคบริโภคภายในประเทศในสิ่งที่สมควร     

              ผมทราบดีนะครับว่าการขึ้นภาษีสุราก็ไม่ใช่เรื่องที่รัฐมนตรีคลังมีความสุขนักเพราะผู้บริโภคหักพังจากและมองไม่เห็นกำลังซื้อภายในประเทศแต่ว่าถ้าหากว่าช่วยกันคนละไม้คนละมือราคาสินค้าในกลุ่มนี้สูงขึ้นมาซะจนลดการบริโภคลงหยุดก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีดังนั้นทุกสิ่งทุกส่วนจึงมีการทำงานที่เกี่ยวโยงกันที่ได้มีการขึ้นภาษีสุรายาสูบมีมติในคราวเดี่ยวกันเลยภาคเอกชนที่สนใจจะบริจาคเงินทั้งนิติบุคคลและคนธรรมดาที่สนใจจะบริจาคเพื่อสนับสนุนการศึกษาและการกีฬาของประเทศท่านสามารถนำไปหักค่าลดหย่อนนำไปหักเป็นค่าใช้จ่ายขององค์กรได้2 เท่าในอดีตมีการตั้งเงื่อนไขไว้ราวกับว่าทำซะยุ่งยากตั้งเงื่อนไขว่ารายการที่หักได้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้รายการนั้นหักได้รายการนี้หักไม่ได้พระราชกฤษฎีกาฉบับใหม่ที่สนับสนุนการหักภาษี2เท่าเปิดทางอย่างกว้างขวางเพียงแต่ว่าระบุองค์กรผู้รับบริจาคสถานศึกษา สถาบันการศึกษาทั้งของรัฐและเอกชนเสร็จแล้วนำใบเสร็จมาหัก2เท่าได้เลยไม่ได้ยกเว้นโรงเรียนกวดวิชา ถ้าเป็นเรื่องกีฬาไล่เรียงไปเลยว่าบริจาคให้การกีฬาแห่งประเทศไทยกองทุนพัฒนากีฬาชาติสมาคมกีฬาฯ การดำเนินการแบบนั้นการสร้างสนามกีฬาความครบถ้วนก็จะเกิดขึ้นความภูมิใจความสุขที่จะได้เห็นเยาวชนเล่นกีฬากันมากๆกลายเป็นนักกีฬาที่มีความสามารถไปชนะเลิศไปแข่งขัน 

               ดังนั้นจึงเรียนว่าโรดแม๊พประเทศไทยในมุมของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็เป็นโรดแม๊พที่เดินไปข้างหน้าตามสมดุลพึ่งพาการส่งออกมากเท่าที่จะพึ่งพาได้แต่เชื่อว่าจะต้องพึ่งแล้วก็พึ่งพาเรื่องของเศรษฐกิจ  การพูดแต่เพียง ก็ยอมรับครับว่าพูดง่ายกว่าทำ ตอนที่จะเป็นภาคปฏิบัติกันจริงๆนั้นต้องการความร่วมไม่ร่วมมือไม่เพียงแต่ส่วนราชการแต่ต้องการความร่วมมือจากทุกฝ่ายและผมอยากชวนท่านได้มองเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องรอบด้านว่าเป็นตัวสำคัญของประเทศ

              แม้กระทั่งเรื่องที่อาจไม่ใช่เรื่องเศรษฐกิจโดยตรงดังที่ท่านติดตามข่าวอยู่ขณะนี้เรื่องยาเสพติดกับข่าวเรื่องเรือนจำนครศรีธรรมราชหลายท่านได้เห็นการจับกุมยาบ้ายาเสพติดต่างๆท่านเคยทราบไหม  ว่าขณะนี้ว่ามีการประมาณการมีคนติดยาเสพติดแล้วในประเทศนี้ถึง1 ล้านคนท่านเคยพยากรณ์ไหม  จากยาบ้าเม็ดละ300บ.แล้วคนที่บริโภคยาบ้านี้มีบริโภควันละเม็ดถาจะเอาตัวเลขมาเฉลี่ยกันน่าจะเป็น1คน 1เม็ดต่อวันเอา300ยาไอซ์1โดส1500บ.ดังนั้นการบริโภคยาที่เป็นยาเสพติดน่าจะแพงกว่ายาบ้าทั้งหมด...1ปีก็1แสน2หมื่นล้านถ้าถามว่าแล้วส่วนนี้เกี่ยวกับเศรษฐกิจไหม  น่าจะไม่เกี่ยวโดยตรงเพราะอะไร
                            เพราะคนที่เป็นเจ้าของเงินที่ไปมอบให้คนขายยาบ้านั้นเค้าสละสิทธิที่จะบริโภคเองคนที่เป็นคนขายตามขั้นตอนมูลค่าของเศรษฐกิจของยาบ้านั้นก็ได้รับผลจากท่านเหล่านั้นแทนก็คงกลายเป็นผู้บริโภคที่มีคุณภาพแทนเจ้าของเงินแต่ว่าส่วนที่มันเป็นเรื่องน่าคิดก็คือว่าคนที่เป็นผู้บริโภคยาเสพติดนั้นก็จะกลายเป็นทรัพยากรบุคคลที่ด้อยคุณภาพแล้วก็จะกลายเป็นภาระเป็นปัญหาของสังคมที่ใหญ่โต รัฐบาลคงต้องทำงานกันใกล้ชิดดำเนินการกันอย่างไร 

                การสนับสนุนให้บริจาคด้านการกีฬาด้านการศึกษามันเป็นเพียงสวยให้ดูเพราะๆ หรือว่าเป็นเรื่องที่อยากจะชวนภาคเอกชนทั้งหลายมาร่วมไม่ร่วมมือกันทำสนามกีฬาให้เป็นสนามกีฬาซะที ทำการศึกษาของเราให้เป็นที่ ที่นักเรียนอยากจะใช้เวลาเรียนในนั้นแล้วก็สร้างคุณภาพชีวิตรัฐบาลยอมรับว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องใหญ่โต ถ้าไปทำงานเป็นมาตรฐานก็เป็นเรื่องยากถ้าตัดสินใจเลือก โรงเรียนซัก โรงเรียนเป็นบริษัทของท่านจะเลือกสมาคมกีฬาซักสมาคมหนึ่งแล้วไปทำงานร่วมกันโดยเป็นที่พึ่งของเยาวชนของประเทศได้โอกาสที่เราจะพาประเทศไปสู่อนาคตทั้งทางเศรษฐกิจทางสังคมและจะหมายถึงการเมืองที่มั่นคงด้วย

                ดังนั้นอาจจะเชื่อมโยงไม่ได้ทุกเรื่องแต่ขออนุญาตเรียนว่าท่านคงเห็นท่านนายกฯถูกตำหนิวิพากษ์วิจารณ์ในหลายเรื่องแต่ผมก็ชื่นชมท่านท่านไม่ค่อยลุกขึ้นมาตอบโต้โต้เถียงกับใครและก็ถามท่านว่าท่านไม่เถียงบ้างเหรอท่านบอกว่าอย่าไปทำให้บรรยากาศ................บรรยากาศทางการเมืองที่ดี ฝ่ายค้านทำหน้าที่ ในส่วนของเอกชนก็มีส่วนช่วยในทุกเรื่องตรงไหนที่เค้าจะคอรัปชั่นกันมักจะมีเอกชนเกี่ยวข้องด้วยแม้ว่าคอรัปชั่นจะแปลว่าฉ้อราษฎรบังหลวงแต่ในบางส่วนอาจจะเป็นหลวงบังหลวงก็มีถ้าหากว่าท่านช่วยเป็นหูเป็นตาสิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น โรดแม๊พ ของเราประเทศของเราเป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่จริงๆ
                              เราเป็นประเทศซึ่งถ้าหากมีคนวิพากษ์วิจารณ์ในทางลบ เค้าจะวิจารณ์ว่าประเทศไทยทำไมถึงได้สะเปสะปะอย่างนี้จะเป็นอะไรก็ไม่เป็นซักอย่างจะเป็นเกษตรกรรมก็ไม่เป็น  เป็นเกษตรก็มีสินค้าเกษตรหลายอย่างจะเป็นอุตสาหกรรมก็พูดไม่เต็มคำว่าจะเป็นอุตสาหกรรมอะไรอุตสาหกรรมรถยนต์อุตสาหกรรมอิเลคโทนิค สินค้าอาหารแปรรูปหรือว่าสินค้าเกษตรยางพาราก็ไม่เป็นซักอย่างหนึ่งจะเป็นเรื่องของการท่องเที่ยว อีโก้ทัวร์ลิมซึ่ม ธุรกิจบันเทิงเชิงอบายมุขก็มี ธุรกิจบันเทิงที่เป็นธรรมชาติก็มี ฯ เชื่อว่าสมการเหล่านี้ก็เป็นจริงทั้งนั้น 

                  ท่านจะเห็นว่าความสะเปะสะปะของเราเนี่ย well world defication ถ้าสมมุติว่ากลุ่มนี้มีปัญหาเราก็มีกลุ่มอื่นมาช่วยนักท่องเที่ยวที่มาจากลุ่มบางประเทศที่กำลังซื้อมีปัญหาเราก็มีนักท่องเที่ยวส่วนอื่นๆมาช่วย ฯและสิ่งที่จะนำเรียนว่าเป็นโรดแม๊พประเทศไทย การกระจายตัวที่จำเป็นจะต้องพึ่งผู้ทำประตูเดิมคือผู้ส่งออก มีความกระจายตัวยิ่งขึ้นไปอีก แล้วการกระจายตัวที่ดีอีกนั้นคือการทำหน้าที่ของ คมจักรเศรษฐกิจซึ่งแต่เดิมนั้นเคย สบายๆ เพราะมีคนอื่นช่วยทำประตูให้ วันนี้ชีวิตไม่สบายเหมือนเดิมแล้วเราจะมีหน่วยงานอื่นทั้งรัฐทั้งเอกชนที่จะต้องตระหนักรู้ตัวว่าจะต้องทำหน้าที่ในภาคปฏิบัติ

                  พูดถึง AEC การเตรียมความพร้อมเหมือนการเตรียมความพร้อมสู่โลกเราตระหนักรู้ว่าคนของเรามีภาษาต่างประเทศ คำถามที่รัฐบาลและรัฐบาลก่อนและรัฐบาลนี้ต้องตอบว่ารัฐบาลทำอะไรบ้างรัฐบาลก็คงจะตอบอย่างที่เคยตอบว่าทำอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วเอกชนทำอะไรบ้างแล้วองค์กรของท่านทำอะไรบ้าง(กำลังพูดถึงความร่วมมือ)ถ้าท่านรู้ภาษาเป็นเรื่องสำคัญมีองค์กรของท่านพยายามปรับปรุงภาษาของคนในองค์กรีความพยายามที่จะปรับปรุงภาษาของบุตรหลานของคนในองค์กรของท่านหรือป่าวการทำงานที่จะรอให้ทั้งประเทศถูกเคลื่อนโดยรัฐบาลเป็นที่น่าเสียดาย 

                  ขอแอบอ้างคำกล่าวของชาวอินเดีย To the world you m be a small person To some person u can be there world ความหมายก็คือว่าไม่ต้องรอท่านประธานาธิบดีโอบรามาที่จะบอกว่าโลกไปทางไหนไม่ต้องรอยิ่งลักษณ์ประเทศจะไปทางไหน ตัวท่านเองกับองค์กรที่ท่านอยู่ ทำกับภารกิจที่ท่านสังกัดท่านสามารถนำพากลุ่มที่ท่านดูแลความเข้มแข็งไปในทิศทางที่ควรได้ทำงานเต็มที่วันนี้รัฐบาลเปิดทางแล้วครับภาคเอกชนที่อยากจะอบรมคนของท่านถ้าท่านทำค่าใช้จ่าย หักภาษี แต่ถ้าท่านเลือกที่จะทำงานกับมหาวิทยาลัยไหน ร.ร.ไหนเพื่อให้เค้าจัดหลักสูตรมาอบรมคนของท่านได้ท่านบริจาคไปให้เค้าแล้วให้........... รัฐบาลฯไม่ตีความว่าท่านใช้ช่องทางนี้มีการหักค่าใช่จ่าย2 เท่า เพราะเหตุผลมันเกิดประโยชน์จริงเกิดประโยชน์ต่อตัวท่าน คนในองค์กรก็ดี การศึกษาที่จะได้ใช้ครูอาจารย์ที่ดีอยู่ประสิทธิภาพให้สูงขึ้น 

                  เพราะฉะนั้นจึงอยากเชิญชวน ที่รอบตัวในขณะที่รัฐบาลเปลี่ยนทิศประเทศไทยช้าๆ ท่านมีเวลาที่ท่านจะทำอะไร .ถ้าหากว่าท่านอยู่ในอุสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้นมากๆ แทนที่จะดึงดูดแรงงานต่างประเทศเข้ามาตัดสินใจไปเปิดโรงงานในประเทศเพื่อนบ้านเลยดีไหม แรงงานเหล่านั้นก็จะได้ไม่ต้องข้ามพรมแดนมาให้เหนื่อยยากท่านอาจจะจ่ายค่าแรงขั้นต่ำ  ที่ท่านจะต้องจ่ายในกรณีที่เค้าข้ามพรมแดนมาแรงงานเหล่านั้นก็มีความสุขมากขณะที่ได้รับค่าแรงสูงในประเทศไทยเพราะว่าเค้าสามารถอยู่ในประเทศของเค้าได้และก็มีความสุข

                  ต้องกราบขอประทานโทษเรื่องของการโปรยสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นแต่ผมอยากให้ท่านเห็นภาพจริงๆว่าทิศนี้คือทิศของประเทศไทยแต่ขออนุญาตยืนยันกับท่านว่าเรากำลังเดินไปในทิศทางที่ถูกต้องท่านจะเห็นว่าผมเลือกที่จะไม่พูดรู้สึกจะมีหลายเวที ที่เปิดโอกาสให้ผมพูดคือเรื่องจำนำข้าวอาจจะรอเศรษฐกิจว่าเมื่อไรจะจับดีเบสคงได้พูดเรื่องนี้เป็นการเฉพาะเพราะว่า

                  เรื่องนี้จะใช้เวลาอธิบายกันได้ยืดยาวคิดว่าสิ่งที่ท่านอยากเห็นคือโรดแม๊พประเทศไทยขอให้ทุกท่านมั่นใจกับประเทศที่ถูกหาว่าสะเปสะปะแต่แท้ที่จริงแล้ว มีการกระจายตัวที่ดีรัฐบาลใช้คำว่าสะเปะสะปะผมก็จะบอกว่าเราจะชวนท่านสะเปะสะปะเพิ่มขึ้น ลดการกระจุกตัวนำไปสู่การกระจายตัวที่ดีขึ้นไปสู่การเจริญเติบโตที่มีเสถียรภาพมีความยั่งยืนและก็มีการกระจายรายได้ที่ดี     เรากำลังเดินไปในทิศทางที่ถูกต้องมีการกระจายตัวที่ลดการกระจุกตัวในการส่งออก


สัมมนา...หนึ่งปียิ่งลักษณ์กับอนาคตเศรษฐกิจไทย  รหัส  แสงผ่อง,พันเอกชยุตรา  เสริมสุข,ร้อยตำรวจเอกราชษ์ชภณต์  แสงทัพและนางสาวรุ่งทิพย์  สุวรรณสถิตย์  นำเสนอ ดร.นันทนา  นันทวโรภาส
รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต(สื่อสารการเมือง)
วิทยาลัยสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก
ร่วมฟังการสัมมนา “หนึ่งปี ยิ่งลักษณ์กับอนาคตเศรษฐกิจไทย” เมื่อวันพฤหัสฯที่  23 สิงหาคม  2555 ณ โรงแรมดุสิตธานี