สัมมนา...หนึ่งปียิ่งลักษณ์กับอนาคตเศรษฐกิจไทยตอนที่ 3. รหัส แสงผ่อง

สัมมนา...หนึ่งปียิ่งลักษณ์กับอนาคตเศรษฐกิจไทย ตอนที่ 3.

การเสวนา “รัฐบาลยิ่งลักษณ์ในสายตานักบริหาร...สอบผ่านหรือสอบตก

           (คุณไพบูลย์  นลินทรางกูร) ราคาเฉลี่ยของภูมิภาคนี้ ก็แสดงว่ามันเริ่มสะท้อนที่มีเถียรภาพมากขึ้นสดใสมากขึ้นกว่าเดิมทรูรีเจน 30%ตอนนี้เรา25%คือถ้ามองในเชิงนี้แล้วสุดท้ายมียุโรปมีอะไรผันผวนในอาเซียนเดิมนี้อินโดนีเซียแต่ปีนี้ประเทศไทยรัฐบาลก็สามารถทำได้ดีพอสมควรที่นี้เราจะเข้าไปในเชิงของ......ในแง่ของเศรษฐกิจ GDP.....ในไตรมาสที่1 เรามีบวกนิดหน่อย 

          เศรษฐกิจก็ถือว่าดีโดยเฉพาะการบริโภคในประเทศถ้าจะมีอยู่......ก็ในแง่ของที่ท่านรัฐมนตรีพูดก็เข้าใจ.....แต่ถ้าจะถามว่ามี........โดยเฉพาะดอกเบี้ย ส่วนการบริโภคในประเทศนโยบายของรัฐได้ดีพอสมควรดูเหมือนคุณไพบูลย์จะให้คะแนนเต็มเลยนะครับคือพอดีโจทย์ถามว่า.....ผมก็เอาตัวเลขนี้ก็เป็นการลงในประเทศกับต่างประเทศน่าจะเป็นความเชื่อมันได้จะทำให้ตัวเลขที่ผมกล่าวอยู่เมื่อกี้นี้มันยั่งยืนอยู่ได้ระยะยาวนานหรือไม่อาจเป็นเพราะในภาพโครงสร้าง เรามีนโยบายต่างๆที่ออกมาเป็นนโยบายที่เน้นการสร้างความเติบโตในการสร้าง.......แน่นอนครับ......ประเทศจะเริ่มเข้าสู่ความท้าทายเพราะเข้าลงทุนในโครงการเศรษฐกิจเราสูงขึ้น.....ที่นี้เรามาฟัง

          (............)ในฐานะตัวแทนภาคบริการก็มองท่องเที่ยวมีความเป็นยังไงก็จริงๆคือถ้าเกิดให้คะแนนผมไม่ให้ผ่านคือรัฐบาลที่ผ่านมาทุกรัฐบาลเลยนี่เวลามองธุรกิจท่องเที่ยวระบบแยกคิดก็คือว่าหลายกระทรวงก็มีน่าที่ทีต้องทำกระทรวงวัฒนธรรมก็กำกับดูแลในลักษณะที่ห้ามบ้างหรืออาจไม่ได้ห้ามบ้างกระทรวงคมนาก็ทำอย่างกระทรวงท่องเที่ยวธรรมดาแต่ว่านโยบายหลักที่เป็นในด้านการท่องเที่ยวในเชิงรวมทั้งหมดทุกกระทรวงที่ผ่านมายังไม่เคยมีใครพูดกันจริงๆ

           ผมยกตัวอย่างง่ายๆเลยนะครับประเทศไทยเป็นประเทศที่ใครๆก็รู้ว่านักท่องเที่ยวเข้ามาเยอะไม่ว่าจะเศรษฐกิจดีเศรษฐกิจไม่ดีอะไรก็แล้วแต่เรามีนักท่องเที่ยวมาตลอด  โดยเฉพาะภาคใต้เราทะเลของเราเนี่ยนักท่องเที่ยวมาแทบจะทุกปีเลยแต่ว่ามาแล้วเนี่ยถามว่าเค้าจะกลับมาอีกหรือเปล่าอันนี้เป็นประเด็นที่ยังไม่เคยมีใครพูดกันจริงๆว่าเค้าจะกลับมาอีกหรือเปล่าเพราะสิ่งที่ผ่านมาก็คือทุกครั้งที่เค้ากลับมาเค้าเจอมาสภาพแบบเดิมทุกครั้งเราไม่เคยมีการพัฒนาเลยแต่ว่าภาคเอกชนเรายังแข็งแรงแต่ว่า

           นโยบายจากภาครัฐเองนี่ ก็ยังที่เห็นเป็นรูปธรรมจะให้บอกนักท่องเที่ยววันนี้  มาลงเครื่องบินจากสุวรรณภูมิมาที่แถวสุขุมวิทพักที่โรงแรมออกไปทานเย็นที่.....รถติดแล้วยกตัวอย่างง่ายๆเลยในเรื่องของโซนนิ่งในเรื่องของอะไรนี่เรามีกฎหมายออกมาแต่เรายังไม่ได้ทำอะไรเลยให้เป็นรูปธรรมจริงๆพัทยาป่าตองเป็นเขตเศรษฐกิจค่อนข้างจะพิเศษเรื่องการท่องเที่ยวอยู่แล้ว
                        แต่ว่าเราสามารถเข้าไปthat right ตรงนั้นได้ไหมสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็น man made หรือว่า.....วันนี้..ฮ๊อทมากเลยที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่แล้วจะเป็นธรรมชาติทั้งนั้น.....ไม่ว่าจะเป็นวัดวาอารามมีแต่คนไปเที่ยววัดพระแก้ว....มีไหมหมายถึงว่าเราอาจจะยังไม่ได้โปรโมทและที่สำคัญเลยที่บอกว่า ท่านนายกยิ่งลักษณ์ผ่านก็คือสมัยก่อนนี้คนเรา.....ท่องเที่ยวนี่เราก็นั่งเรือไปจะเห็นว่าประเทศที่เจริญไม่ว่าอัมเตอร์ดัมหรือนิวยอร์คนี่ท่าเรือเค้าค่อนข้างทันสมัย

           วันนี้ประเทศที่จะพัฒนาได้จะต้องมีสนามบินครับเพราะนักท่องเที่ยวหรือ.....ถ้าจะลงทุนซื้อหุ้นนี้ถ้าเกิดเข้ามาถ้าใครนั่งเรือมาหรือนั่งรถมาคงไม่มีมีแต่นั่งเครื่องบินแล้วศักยภาพของสนามบินบ้านเราอันนี้เป็นครั้งแรกผมอยู่ในธุรกิจนี้มา9 ปีมีการ....อนาคตว่าถ้า.....ออกไปแล้วมีอะไรรองรับเพราะฉะนั้นสิ่งที่.....วันนี้คนเฉลี่ย 2 คน เข้ามาใช้เงินบ้านเราประมาณเจ็ดหมื่นบาทต่อคนอันนี้สะท้อนนักท่องเที่ยว หมุนไปห้ารอบตามทฤษฎีเศรษฐกิจก็คือประมาณ ห้าหมื่นบาทนักท่องเที่ยวเข้า 20-30ล้านคนนี่เป็นเงินสดที่สามารถหมุนเวียนได้ยังนี้เข้ามาได้ไม่เต็มที่เพราะทุกคนต้องผ่านสนามบิน

         ในฐานะที่เป็นตัวแทนของอีกประเด็นเรื่องความเชื่อมั่น(.......)ก็ในส่วนของ

         (คุณจันทนา สุขุมานนท์มุมมองจากบริษัทร่วมทุนต่างชาติ) ต้องมีโรดแม๊พในการแก้ไข...คนต่างชาติจะเข้ามาลงทุนที่รัฐมนตรีคมนาคม....เชื่อไหมคะโรงงาน.....ที่สระบุรีเอาปูนใส่รถไฟมากรุงเทพฯ.......พอถึงร้านเดียวกันถ้าจากที่สระบุรีมาที่ร้านเดียวกัน.....การขนส่งทางรถคิดว่าในภาพรวมถ้าเราดูแลเรื่องโลจิสติกส์ได้ดีเรื่องสตัครเจอร์โปร่งใสทุกอย่างให้ทุกอย่างจะ...ไปหมดแต่จะทำไรไม่ได้เรื่องคอรัปชั่นนี่ก็มีการเราอยากจะให้วางสตัครเจอร์ประเทศนะคะไม่มี....ไว้ที่แม่เมาะ....เพราฉะนั้นเราจึงเป็นเพราะฉะนั้นเรือกับรางเท่านั้นที่เราจะต้องพัฒนาต่อไปก็ฝากไว้ด้วยค่ะว่า.....ก็อยากจะมาลงทุนที่ประเทศแน่นอน....เพราะภาษาอังกฤษของคนไทยนี่....คนไทยภาษาอังกฤษไม่ดี......เค้าชอบคนไทยมาก

           และอยากให้ความสำคัญพัฒนาด้านภาษาอังกฤษให้ดีขึ้น....ส่วนใหญ่เอนจิเนียร์จะได้ประมาณ สี่ร้อย.....พัฒนาให้ได้ เจ็ดร้อยห้าสิบ...ก็จะทำให้เราดูดีขึ้น.....อยากให้ต่างชาติเข้ามาลงทุน..เวียดนาม..บริษัทที่...คนไทยเก่งกว่าเพียงแต่เราพูดไม่ได้ไม่รู้จะไปบอกเค้ายังไงว่าเราเก่งกว่าเขา...... เตี้ยอุ้มค้อมคือเอาคนโง่มาสอนลูกเราลูกเราต้องโง่แน่นอน เพราะฉะนั้นคนที่มีตังค์นิดหน่อยจะให้ลูกเรียนโรงเรียนอินเตอร์หมดเลย....แตกต่างกันเพราะลูก...เป็นลูกครึ่งก็เลยต้องเรียนอินเตอร์พูดถึงความแตกต่าง

           เพราะฉะนั้นเราพูดถึงว่าปฏิรูปการศึกษาคือเราต้องให้เงินเดือนครูสูงมากและเอาคนดีที่สุดมาสอนลูกเราอันนี้ทั้งหมดมันจะแก้อะไรได้หลายๆอย่างในประเทศเราก็ดีขึ้นนั้นคือรูสคอปจริงๆคนก็จะไม่ซื้อเสียงคนก็มีคุณภาพดีขึ้นคนก็จะไม่ต้องเสียค่ารักษาพยาบาลมากเพราะฉะนั้นประเทศไทยปรับเปลี่ยนขึ้น ดูงบประมาณการศึกษาให้มากที่สุดฝากไว้ด้วยอันนี้เป็นสิ่งที่อยากมากถ้าเค้าทำอะไรก็ตามเป็นอาจารย์แต่พอดีทาง....ไม่รับรองวิทยฐานะเป็นครูสอนไม่ได้ด้วยตั้งใจจะเป็นครู......กระทรวงเป็นครูสอนไม่ได้ด้วยต้องไปสอบ.......ผ่านหรือไม่ผ่าน
                       รัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็สี่เดือนก็แก้น้ำอย่างเดียวยังไม่ได้เริ่มทำอะไรเลยเข้ามาถึงก็เจอปัญหาเรื่องน้ำพอหลังจากนั้นก็พูดเรื่องจะแก้ปัญหาน้ำถัดมาได้อย่างไรทำงานยังไม่ได้แต่ถ้าเราให้ความตั้งใจเกินร้อยเพราะทุกคนตั้งใจหมดเพราะว่าเรามีการคาดหวังกันเยอะให้คะแนนที่เมื่อกี้บอกเป็นเม็ด...เราเป็นเทคเจอร์หรือเราเป็นโปรเมอร์เตอร์...เป็นโปรเมอร์เตอร์รัฐบาลนี้ไหมยังให้คะแนนเป็นโปรเมอร์เตอร์ไม่ได้โปรเมอร์เตอร์คือต้อง.....ให้7-8คือโพรโซ

          เรียนถามคุณศุภรัตน์ในฐานะกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์พูดกันในภาพการผลิตทั้งหมดนี่กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ประโยชน์จากนโยบายของรัฐบาลมากที่สุดไม่ทราบมีความเห็นอย่างไรบ้าง

         จริงๆแล้วอุตสาหกรรมยานยนต์เรานี่ถือว่าเป็นอะไรซึ่งรับบาลจะอุ้มชูและให้การอุดหนุนมาตั้งแต่ในอดีต 40 ปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะกระทรวงอุตสาหกรรมซึ่งนับว่าเป็นโชคดีที่ว่ารัฐบาลได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ 40 กว่าปีที่ผ่านมานี้นโยบาย...อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนก็จะเห็นว่ามีการเจริญเติบโต..ตั้งแม่สมัยมีการเริ่มใช้ชิ้นส่วนในประเทศการบังคับใช้จนกระทั่งยกเลิกปี2000
                       จนกระทั่งทุกวันนี้คือการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศก็ยังมากขึ้นเรื่อยๆยังรถปิคอัพที่เป็นกระบะยักษ์ของประเทศไทยส่งไปขาย130 ประเทศทั่วโลกและมีชื่อเสียงเราใช้ภายในประเทศกว่า 90% เครื่องยนต์ดีเซลทั้งเครื่องทุกชิ้นทำในประเทศหมดเครื่องสูบและเครื่องหล่อ

          และอันนี้เป็นสิ่งที่น่าภูมิใจเพราะฉะนั้นอุตสาหกรรมยานยนต์ในบ้านเราเมื่อปีที่แล้วตอนสมัยรัฐบาลเข้ามาเป็นรัฐบาลยิ่งลักษณ์นี่ก็บังเอิญเจอช่วงน้ำท่วมจริงๆปีที่แล้วเราตั้งเป้าหมายในการประกอบทุกยี่ห้อเลยเราตั้งไว้ประมาณ 1.8ล้านคันซึ่งเป็นการส่งออกซะครึ่งหนึ่งแต่บังเอิญตอนต้นปีที่แล้วก็ไปเจอเหตุการณ์ซึนามิที่ญี่ปุ่นชิ้นส่วนหลายชิ้นมาไม่ได้แล้วก็กำลังจะเริ่มฟื้นมีนาเมษาพฤษภาเริ่มฟื้น มิถุนา กรกฎา เจอน้ำท่วมเพราะฉะนั้นปีที่แล้วทั้งปีหายไปสามแสนกว่าคันจากเป้าที่ตั้งไว้1.8ล้านคันก็เหลือ1.45ล้านคันนั้นเพราะฉะนั้นปี2555 ตอนต้นปีรัฐบาลก็ฟื้นฟูผมก็เห็นด้วยกับพี่..นะครับ

           เค้าพยายามที่จะแก้ไขถึงแม้จะเข้ามาใหม่ก็คงจะงงมากมาเจอน้ำท่วม ก็พยายามจะช่วยเหลือนิคมอุตสาหกรรมทั้ง7แห่งที่จมน้ำอยุธยา ปทุมฯซึ่งในนั้นมีผู้ผลิตชิ้นส่วนของเรารวมทั้งผู้ประกอบรถยนต์รายหนึ่งด้วยครับร้อยกว่าบริษัทอยู่ในนั้นซึ่งต้องใช้เวลาในการฟื้นฟู3-6เดือนแต่ก็เป็นอะไรซึ่งรัฐบาลเองก็ให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดีทำให้การฟื้นตัวของยานยนต์ค่อนข้างเร็วมาก มกรา กุมภาประกอบน้อยหน่อย หลังจากนั้นมา มีนาเนี่ยครับ เมษาพฤษภา มิถุนา เราทำลายสถิติทุกเดือนโดยเฉพาะเดือนที่ผ่านมา เดือนกรกฎาเราประกอบทั้งสิ้น212,000คันในเดือนเดียวนะครับซึ่งไม่เคยทำมาก่อนเลยตั้งแต่ตั้งการประกอบรถยนต์ในประเทศไทยมาตรงนั้นเป็นการประกอบเพื่อขายไปต่างประเทศครึ่งหนึ่ง 

             เพราะฉะนั้นปีนี้ทั้งปีเราคาดว่าเราจะทำรถยนต์ทั้งสิ้น2.2ล้านถึง2.3ล้านคันซึ่งจำนวนนั้น 1ล้านคันต้องไปที่ท่าเรือแหสมฉบังที่ท่านรัฐมนตรีพูดซึ่งท่าเรือแหลมฉบังต่อไปก็จะไม่พอแล้วในการส่งรถออกต่างประเทศ1.2ล้านคันทำเพื่อขายในประเทศถามว่านโยบายรถคันแรกของรัฐบาลนั้นก็คงจะเป็นการเกื้อหนุนบังเอิญเมื่อปลายปีที่แล้ว ที่เรียนว่ารถหายไปจากระบบสามแสนกว่าคันทำให้กำลังซื้อยังคงมีอยู่แล้วก็ส่วนหนึ่งชดเชยกับตรงที่น้ำท่วมด้วย
                          ปีนี้ตั้งแต่ต้นปีมาดีมากประกอบกับนโยบายรถคันแรกก็ทำให้รถที่เข้าเกณฑ์ต่ำกว่า1500cc.ต่ำกว่าหนึ่งล้านบาทรถปิกอัพก็สามารถที่จะเข้ามาให้ผู้บริโภคได้สามารถจับจองได้มากขึ้นและท่านก็ยังได้ให้โอกาสเปิดจองถึง31ธันวาปีนี้แต่ว่าไปรับมอบปีหน้าเมื่อไหร่ก็ได้จนกว่ายอดจองของปีนี้จะหมดเพราะฉะนั้นตรงนี้ ก็ทำให้ยอดจองเพิ่มขึ้นทุกเดือน สิทธิในการลดภาษีตรงนี้ค่อนข้างมากสูงสุดถึงหนึ่งแสนบาท  

             เพราะฉะนั้นปริมาณการผลิตในปีหน้าทุกบริษัทเองก็คงจะต้องวางแผนการผลิตให้ดีเพื่อที่จะทำให้การส่งมอบเร็วที่สุดเพราะฉะนั้นปีนี้ปีหน้าเราก็มองว่าศักยภาพของยานยนต์ไทยเจริญเติบโตต่อไปตลาดต่างประเทศถึงแม้ว่าวิกฤติยุโรปจะมีผลบ้าง2-3%เผอิญเราส่งไปขายที่ยุโรปประมาณ 10%ทั้งหมด ปัจจุบันนี้ตกลงเหลือซัก7%แต่บังเอิญมีตลาดที่มาเพิ่มเติมคือตะวันออกกลาง อเมริกาใต้และโดยเฉพาะในเอเชียแปซิฟิก ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ก็เป้นตลาดปิกอัพใหญ่ของเราเพราะฉะนั้นยืนยันได้เลยว่านักลงทุนโดยเฉพาะญี่ปุ่นยังคงยึดหางการผลิตยานยนต์และชิ้นส่วนในประเทศไทยต่อไปแน่นอน 

              มีสาเหตุหลายๆอย่างซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้นักลงทุนเหล่านี้ไม่ไปที่อื่นยกตัวอย่างเช่น.เรื่องของเครือข่ายผู้ผลิตชิ้นส่วนที่ดีอันนั้นสืบเนืองมาจากภาครัฐเองได้ให้การสนับสนุนเพราะฉะนั้นผู้ผลิตในเมืองไทยในอาเซี่ยนรัฐมนตรีให้การสนับสนุนอันที่ สอง...สตัคเจอร์เรื่องของน้ำเรื่องของไฟเราไม่เคยมีปัญหาเรื่องไฟดับยกเว้นว่าจะเกิดอุบัติเหตุแต่ว่าในอินโดนิเซียนี่บางทีในห้องประชุมกันแบบนี้ก็ไฟดับต้องมีเจเนอร์เรเตอร์เยอะมากเพราะฉะนั้นเรื่อง...เค้าสู้เราไม่ได้.เรื่องของแรงงานถึงแม้เรามีแรงงานที่มีฝีมือค่อนข้างดีมากที่ญี่ปุ่นเองก็ยอมรับสามารถฝึกได้เร็วและก็ทำได้ดีมากอันนี้จะเป็นข้อห่วงอีกข้อหนึ่งอีกจุดหนึ่งที่ญี่ปุ่นชอบมากคือแล้วคนประเทศไทยอาหารอร่อยแล้วคนก็จะมีมิตรภาพกันดีและที่สำคัญคือมีสนามกอล์ฟเยอะอันนี้ญี่ปุ่นชอบมาก

            ไม่ต้องไปอินโดแล้วซึ่งเป็นสิ่งซึ่งดึงดูดนักลงทุนแล้วก็เรื่องของการเมืองจริงเรามีการเปรยถึงแม้ตอนนี้อาจจะมีปัญหาบ้างก็ไม่ได้เกินความสามารถมากนักทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็มองในภาพรวมว่าท่านรัฐบาลเองก็มีความตั้งใจและให้ความสำคัญกับภาคเอกชนค่อนข้างมากโดยเฉพาะมีครม.เรียกว่าร่วมภาครัฐและเอกชนซึ่งตรงนี้คณะกรรมการที่นี้ดีมากซึ่งสามารถที่จะทำงานร่วมกันไปอย่างดีมีความตั้งใจและก็คิดว่าจะให้ท่านผ่านอย่างไม่มีปัญหา(แล้วผ่านนี้ เกิน60%หรือเปล่าครับ)

               (อิสระ  บุญยังภาพสะท้อนจากภาคอสังหาริมทรัพย์) ท่านลำดับถัดมาคือท่านที่มาจากภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากมหาอุทกภัยเมื่อปลายปีที่แล้วและก็เป็นภาคธุรกิจที่รัฐบาลได้ให้ความสำคัญและก็มีนโยบายเฉพาะเจาะจง มองนโยบายรัฐบาลแบบภาคอสังหาริมทรัพย์อย่างไร

              ในเรื่องของบ้านหลังแรกเรื่องที่หนึ่งก็คือว่าให้ผู้ที่ซื้อบ้านระดับไม่เกิน หนึ่งล้านบาทตอนนี้ยังวงเงินเหลือเยอะเพราะฉะนั้นใครจะซื้อไม่เกินหนึ่งล้านซื้อได้นะครับตอนนี้มีวงเงินอยู่สองหมื่นล้านกู้ผ่านธนาคารอาคารสงเคราะห์ดอกเบี้ย0%สามปีวงเงินสองหมื่นล้านจะสิ้นสุด30 กันยานี้แล้วก็จะต้องดอนให้เสร็จภายในธันวาใช้ไปสี่พันล้านเพราะฉะนั้นก้ให้คะแนนเอง ประการที่สองซื้อบ้านไม่เกินห้าล้านบาทก็ลดหย่อนภาษีได้ไม่ลดหย่อนนะให้ลดภาษีไปเลยครับ 10%เพราะฉะนั้นถ้า...ห้าแสนบาทเพียงแต่ว่ามาตรการที่สองนี้

                สำหรับผู้ที่มีเงินได้สี่ถึงห้าหมื่นบาทและมีหักค่าใช้จ่ายส่วนตัว....เพราะฉะนั้นถ้าซื้อบ้านห้าล้านก็มักจะไม่ใช่บ้านหลังแรกอีกเคยใช้สิทธิ.....นี่ไม่ได้เลยนะครับเพราะฉะนั้นผมคิดว่าถ้าพูดโดยตรงมาตรการที่ หนึ่งสองหมื่นล้านใช้ไปสี่พันล้านอันนี้ให้คะแนนเองนะ อันที่สองมาตรการที่สองจะไปเห็นผลในการยื่นภาษีรายได้บุคลธรรมดาในมีนาคมปีหน้าซึ่งผมก็เชื่อว่าจะมีน้อยรายที่จะได้ประโยชน์ในกรณีนี้เพราะฉะนั้นสองมาตรการนี้เอาแบงค์ไว้ก่อนยังไม่ให้คะแนนผมยังไม่ให้เองแต่ท่านเองก็ได้แต่ที่นี่มีเรื่องหนึ่งที่เป็นนโยบายของรับบาลและก็เป็นผลดีค่อนข้างมากก็เป็นผลในการขับเคลื่อนในปี55นี้

                ก็คือนโยบายในเรื่องของ....ในเรื่องหนี้รัฐบาลออกพ.ร.บ.มาจริงๆพ.ร.บ.นี้ก็ไม่มีเจตนาที่จะออกมาเพื่อที่จะช่วยสำทับเท่านั้นแต่ช่วยธุรกิจอุตสาหกรรมที่ประสบภัยจากช่วงอุทกภัยที่ผ่านมากู้มีวงเงินอยู่สองแสนหนึ่งล้าน...จากแบงค์ชาติและธนาคารพาณิชย์สมทบอีกสามแสนล้าน สินเชื่ออันนี้ได้ถูกหยิบมาสำหรับที่อยู่อาศัยด้วยเหมือนกันแต่ธนาคารพณิชย์ต่างๆ และก็ธนาคารของรัฐ อาคารสงเคราะห์สองหมืนล้านแป๊บเดียวก็หมดอันนี้คือใครจะซื้อบ้านไม่เกินสามล้านก็ถ้าตัวเองประสบภัยหรืว่าที่ทำงานตัวเองประสบภัยอุทกภัยภัยพิบัติ 

                ก็จะได้ดอกเบี้ย3% ห้าปีได้รับความสนใจมากและก็ไม่เพียงพอด้วยในวงเงินนี้เพราะฉะนั้นก็สะท้อนให้เห็นว่าเรื่องดอกเบี้ย0%ได้ผลน้อยไปหน่อย เพราะว่าจะต้องไม่เกินหนึ่งล้านบาทในประเทศนี้หายากมากไม่มีให้ซื้อเพราะฉะนั้นอันนี้ก็เป็นภาพรวมของเฉพาะธุรกิจภาคอสังหาริมทรัพย์.ปรากฏไม่ได้เอาไปทั้งก้อนกลับมีผลดีกว่าที่นี้ผมก็เข้าใจรัฐบาลว่าการจะออกมาตรการใดๆของรัฐบาลโดยเฉพาะท่านนายกฯซึ่งเคยมาจากภาค อสังหาฯก็พออกมาตรการเงินก็จะครหาว่ามาช่วยมีอะไรมีส่วนได้เสีย 

                อันนี้ผมคิดว่าก็น่าเห็นใจตัวท่านนายกเองอันนี้ก็ต้องทำความเข้าใจด้วยว่านโยบายของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่ออสังหาริมทรัพย์นี้ก็ใช้กันทุกประเทศในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำจะเป็นรัสเซีย อเมริกา สิงค์โปร มาเลเซียฯ ก็ใช้หมดและก็ประเทศเราเองก็ใช้มาหลายรัฐบาลตั้งวิกฤติปี40ก็คือใช้มาตรการการคลังเป็นหลักลดหย่อนภาษีเฉพาะค่าโอนค่าจำนอง และคิดว่าอันนี้เป็นเรื่องที่ต้องเข้าใจอาจจะขับเคลื่อนก็เป็นที่เข้าใจกันดีว่าตัวคูณทางเศรษฐกิจ.....ตั้งแต่ปูนซีเมนต์เหล็กเส้น...จนกระทั่งการตกแต่งเฟอร์นิเจอร์รวมทั้งการใช้ไฟฟ้าประปาโทรศัพท์เพราะฉะนั้นตัวคูณทางเศรษฐกิจค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับธุรกิจประเภทอื่น 

                 คิดว่ารัฐบาลมีความจำเป็นถ้ารัฐบาลจะออกมาเพียงแต่ว่าถ้าจะให้พ้นข้อครหาถ้าในปีหน้ามาตรการนี้สิ้นสุดแล้ว ก็ออกมาในกรอบที่จำกัดในวงเงินเท่าไหร่ ประการที่สองช่วยสร้างอันดับที่มีความจำเป็นอันนี้ก็จะเป็นประโยชน์ที่นี้ประเด็นต่อมาที่เป็นนโยบายทางอ้อมที่ไม่เพื่อภาค อสังหาโดยตรงก็จะมีเรื่องการขึ้นค่าแรง...อันนี้ก็กระทบโดยตรง....ถ้าเกิดมีการขาดแคลนแรงงานมากๆ คิดว่าเรื่องนี้ถ้าปล่อยไปเรื่อยๆจะเกิดการดึงแรงงานข้ามภาคอุตสาหกรรม อันนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องให้ความสำคัญเรื่องขึ้นค่างแรงขั้นต่ำอาจมีผลกระทบอยู่บ้าง 

                แต่ยังไม่สำคัญเท่ากับการขาดแคลนแรงงาน การนำเข้าแรงงานต่างด้าวโดยผิดกฎหมายน่าจะทำให้ถูกต้องกลไกการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวให้ถูกกฎหมาย การขึ้นค่าแรงก็เป็นเครื่องพิสูจน์ความสามารถของรัฐบาลกลไกการขึ้นแรงงานว่างทางสังคมหรือเปล่า  ดอกเบี้ยมีผลต่ออสังหาริมทรัพย์โดยตรง ดอกเบี้ยจะเป็นตัวแปรที่ผกผัน เตือนอีกเรื่องคืออุทกภัยที่ผ่านมารัฐบาลควรจะมีการแถลงทุกเดือนเพื่อความเชื่อมั่น ให้เห็นถึงปัญหาอุปสรรคประชาชนจะให้กำลังใจรับบาลเอง ครับถ้าผมให้คะแนนคงซักหกคะแนน

              พอ.ดร.เศรษฐพงค์  มะลิสุวรรณ ประธาน กสทช.(หัวข้อรัฐบาลยิ่งลักษณ์กับ กสทช. อยากให้มองนโยบายของรัฐบาล)

             จริงผมก็เป็นคนเดียวที่มาจากภาครัฐท่านนายกท่านมีแนวคิดอย่างไรเราต้องทำการให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลท่านนายกได้เชิญไปโครงสร้างทิศทางการโทรคมนาคมซึ่งผมเล่าให้ฟังท่านมีความเป็นคอมมิวนิเคชั่น ท่านพูดอย่างเดียวอีโคโนเลดๆตลอดเวลาทำให้ผมรู้ว่าท่านมาตรงจุดท่านเข้าใจวิธีการไอที่ หรือโทรคมนาคม ท่านเน้นในเรื่องการสื่อสาร ท่านบอกว่าเราไม่มีถนน เรามีแต่รถ มีรถไม่มีถนนก็วิ่งไม่ได้ 

             ท่านติดตามเรื่อง ไวไฟว์ที่จะถึงชนบทที่ห่างไกลมันถึงจริงหรือเปล่าเพราว่าสิ่งที่สำคัญคือการลดความเลื่อมล้ำทางสังคมในเรื่องการสื่อสารหรือศึกษา นโยบายการลดลงในภาคโทรคม20-30% การสร้างทางด่วนข้อมูลลดการใช้พลังงานปฏิรูปการศึกษาจะสำเร็จซึ่งสอดคล้องกันกับนโยบายของ กสทช.มีความแตกต่างในแมพปิ้งไม่ถึง15% มันจะฝั่งอยู่ในธุรกิจแต่ละทุกธุรกิจซึ่งท่านให้ความสำคัญมาก ผมให้คะแนนเรื่องความสอดคล้องกัน

             คุณทัศพล แบเลเว็ลด์  อยากให้นโยบายการท่องเที่ยว

             พี่แมว อยากให้อะไรที่มันอยู่ใต้โต๊ะมันขึ้นมาอยู่บนดิน ไม่ว่าจะแรงงาน การปฏิรูปการศึกษา ปฏิรูปไม่ได้แปลว่าเปลี่ยนแปลง ภาษาอังกฤษต้องเป็นภาษาที่สองของประเทศ ระบบโลจิสติกส์ แผนงานการคมนาคมการสร้างทาง ราง เรือที่รัฐมนตรีพูดก็ดีใจ

            นโยบายของภาครัฐที่แน่นอนเรื่องพลังงาน ไม่ว่าจะรัฐบาลไหนๆก็ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงนักลงทุนเช่นภาษีที่ทำมาดีๆ

           คุณอิสระการลงทุนในการเชื่อมโยงเหนือใต้ออกตก กรอบของกายภาพการบริหารจัดการน้ำ

           ดร.เศรษฐพงค์ การโทรคมฝั่งตัวอยู่ในทุกธุรกิจการใช้ไอพีเชื่อมโยงรัฐบาลคงต้องปรับโครงสร้างให้

สัมมนา...หนึ่งปียิ่งลักษณ์กับอนาคตเศรษฐกิจไทย  รหัส  แสงผ่อง,พ.อ.ชยุตรา  เสริมสุข,ร.ต.อ.ราชษ์ชภณต์  แสงทัพและนางสาวรุ่งทิพย์  สุวรรณสถิต  นำเสนอ ดร.นันทนา  นันทวโรภาส
รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต(สื่อสารการเมือง)
วิทยาลัยสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก
ร่วมฟังการสัมมนา “หนึ่งปี ยิ่งลักษณ์กับอนาคตเศรษฐกิจไทย” เมื่อวันพฤหัสฯที่  23 สิงหาคม  2555 ณ โรงแรมดุสิตธานี